นักดื่มเอสเปรสโซหรือ espresso drinker ที่ดื่มเป็นปรกติอยู่แล้วเห็นหัวข้ออาจจะขำนะครับ แต่สำหรับคนที่ไม่เคยสั่งเอสเปรสโซดื่มเลยหรือเคยบ้างแต่ไม่เห็นว่ามันเข้าท่าตรงไหนแล้วไม่สั่งมาดื่มอีก นี่อาจเป็นคำเชิญชวนอีกครั้ง แต่มันต้องมีพิธีกรรมเล็กๆ น้อยๆ
ก่อนอื่นถ้าถามว่าแล้วทำไมต้อง “เอสเปรสโซ” ด้วยเล่า กาแฟเย็น กาแฟปั่น คาปู ลาเต้ ม่อคค่าที่ดื่มอยู่ก็ดีอยู่แล้ว ตอบแบบไม่สั้นไม่ยาวได้ว่า เพราะมันน่าดื่มกว่าเมนูอื่นๆ ในเงื่อนไขที่ว่า เอสเปรสโซนั้นทำมาแบบพอใช้ได้นะครับ และจะยิ่งถูกจริตกับคนชอบอะไรเร็วๆ ชัดๆ กระชับจับแต่ใจความ สามารถดื่มได้วันละหลายถ้วย และไม่ต้องการน้ำตาลจากนมข้นหรือแคลเซียมแถมไขมันจากนมสดอีกต่อไป เอสเปรสโซไม่ใช่เครื่องดื่มของเพศใดเพศหนึ่ง หรือคนวัยใดโดยเฉพาะ เราดื่มเพราะมันอร่อย โดยเฉพาะคนที่ทำงานกาแฟเป็นอาชีพ การดื่มเอสเปรสโซถือเป็นทางเลือกของ purist ที่ต้องการเห็นคุณภาพของกาแฟซึ่งสะท้อนความตั้งใจตั้งแต่สวนกาแฟ คนคั่ว จนมาถึงประสิทธิภาพของเครื่องชงและทักษะของคนที่สกัดเป็นน้ำกาแฟออกมาให้ดื่มเลยทีเดียว
ปัญหา
สำหรับมือใหม่ เป็นเรื่องไม่ง่ายที่จะได้เอสเปรสโซแบบ “พอดื่มได้” ตามท้องถนนทั่วไป ด้วยเหตุที่เมล็ดกาแฟคั่วที่ใช้ส่วนใหญ่ในเมืองไทยเป็นเมล็ดกาแฟที่คั่วค่อนข้างเข้มเพื่อใช้กับเมนูกาแฟที่ต้องผสมนมเป็นหลัก เมล็ดกาแฟที่คั่วเข้มหรือคุณภาพไม่สูงพอเมื่อนำมาทำเป็นเอสเปรสโซมันก็ขม เหม็นไหม้เหม็นควัน ไม่อร่อยสิครับ นี่ยังไม่นับที่บางร้านอาจใช้เครื่องชงประสิทธิภาพต่ำหรือพนักงานชงไร้ทักษะ การมองหาร้านกาแฟที่น่าจะทำเอสเปรสโซแบบพอดื่มได้จึงอาจต้องใช้เทคนิกแทคติกในการสังเกตอยู่บ้าง ข้อสังเกตร้านกาแฟที่น่าจะทำเอสเปรสโซได้ดี
- สีของเมล็ดกาแฟในเครื่องบด ถ้าเห็นเป็นสีน้ำตาลอยู่บ้างถือว่าสัญญาณดี แต่ถ้าดำ น้ำมันเยิ้มจนเปียก ร้านนั้นให้ข้ามไปเลย
- ถ้าเห็นเครื่องบดมากกว่าหนึ่งเครื่อง อันนี้ก็ถือเป็นเป็นสัญญาณดีเช่นกัน เพราะมีโอกาสที่ร้านได้เตรียมเมล็ดกาแฟที่เหมาะกับเอสเปรสโซไว้แล้ว
- ลักษณะของถ้วยเอสเปรสโซ ต้องลองดูนะครับ ปกติจะคว่ำไว้หลังเครื่องชง ถ้าเราสังเกตเทียบกันหลายๆ ร้าน ร้านที่ถ้วยเอสเปรสโซดูดี มักหมายถึงเขาให้ความสำคัญกับเมนูนี้อยู่บ้าง ไม่ใช่มีไว้เพื่อประดับให้เมนูมันครบๆ ไปเท่านั้น
- อาจสั่งเมนูกาแฟนมที่เคยดื่มอยู่ประจำนั่นแหละครับ ถ้ารู้สึกว่าร้านไหนรสอ่อน ไม่ค่อยขม ให้ลองสั่งเอสเปรสโซดื่มดูบ้าง
- ลูกค้าฝรั่งเยอะ อันนี้ไม่แน่นะครับ แต่ก็น่าคิด เพราะโดยมากลูกค้าฝรั่งมักจะมีรสนิยมการดื่มกาแฟที่ดี แม้จะเห็นว่านั่งดื่มแต่เมนูกาแฟนม ก็ยังเป็นไปได้ว่าร้านนั้นเอสเปรสโซอาจจะดี
- ค้นหาในกูเกิ้ล เดี๋ยวนี้มีแผนที่ลายแทงให้ตามไปดื่ม โดยเฉพาะกลุ่มที่คุยว่าทำกาแฟคุณภาพ เราอาจหวังได้ว่าเอสเปรสโซเค้าน่าจะใช้ได้ด้วย
เอาล่ะครับ สมมติว่าเลือกร้านได้แล้ว พิธีกรรมเล็กๆ ในการดื่มเอสเปรสโซของเรา เป็นอย่างนี้นะครับ
- สั่ง “ขอเอสเปรสโซ” ครับ/ค่ะ ถ้าพนักงานถามว่าร้อนหรือเย็น ตอบ “ร้อน” ถ้าพนักงานถามว่าซิงเกิ้ลหรือดับเบิ้ล ตอบ “ซิงเกิ้ล” ถ้าพนักงานพยายามย้ำว่าเป็นถ้วยเล็กๆ โน่น นี่ อะไรก็ช่าง ให้ยืนยันว่าถูกต้องแล้ว
- ถ้าพนักงานเสิร์ฟพร้อมน้ำดื่ม ให้ดื่มน้ำล้างคอไปก่อนเลย
- เข้าสูตร ดู ดม คน ดื่ม เริ่มจากดูสีครีมา(ครีมที่ลอยอยู่บนหน้ากาแฟ) สีครีมาต้องเข้ม เนื้อละเอียด ถ้าสีซีดๆ หรือไม่มีครีมเลย ไม่จำเป็นต้องดื่มนะครับ เราคงไม่ขอเงินคืนแต่ไม่ต้องทนดื่มเพราะเกรงใจ ทิ้งไว้อย่างนั้นแหละครับ และไม่ต้องมาซ้ำอีก
- ยกถ้วยขึ้นดมกลิ่นที่ลอยผ่านครีมาออกมาก่อน สังเกตกลิ่น
- ใส่น้ำตาลทรายขาว 1 ช้อนกาแฟ แล้วคนให้ละลาย
- การคนน้ำตาลจะทำให้ครีมาบางลง จากนั้นให้ยกขึ้นดมอีกครั้ง กลิ่นอาจจะเปลี่ยนไปบ้าง ให้สังเกตกลิ่น เอสเปรสโซที่ดีจะต้องมีกลิ่นที่เชิญชวนให้ดื่ม ถ้าดมแล้วลังเลที่จะดื่มแสดงว่าถ้วยนี้มีปัญหา
- นอกจากดมเพื่อเสพกลิ่นดีๆ ในกาแฟแล้วเรายังใช้จมูกสัมผัสไอร้อนที่ลอยขึ้นมาด้วย เพื่อหาจังหวะในการดื่มที่พอดี คือไม่ร้อนเกินไปและไม่เย็นเกินไป กาแฟที่ร้อนไปจะทำให้ลิ้นพอง และมักจะมีรสขมกว่า ส่วนกาแฟที่เย็นเกินไปจะมีรสเปรี้ยวมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ละคนจะมีจังหวะการดื่มเอสเปรสโซที่ต่างกันไปบ้าง แล้วแต่ความชอบของบุคคล
- น้ำกาแฟที่ได้มามักมีปริมาณไม่เกิน 1.5 ออนซ์ โดยปกติถ้าดื่มแต่ละอึกให้เต็มปากเต็มคำสักหน่อยจะได้ 3-4 อึก สำหรับเอสเปรสโซเราจะไม่จิบทีละนิด เมื่อมั่นใจว่าอุณหภูมิของกาแฟพอเหมาะแล้ว ให้ดื่มเต็มๆ คำ ให้น้ำกาแฟไหลนองเข้าไปให้ทั่วปาก ไม่จำเป็นต้องซดเสียงดังๆ หรือกลั้วเอาอากาศเข้าไปด้วย เอาว่าให้สัมผัสได้เต็มที่เพื่อได้รสชาติครบถ้วน ส่วนจะทิ้งระยะแต่ละอึกแค่ไหน อันนี้ก็แล้วแต่คนอีกครับว่าชอบแบบไหน แค่อย่าลืมว่ารสชาติจะเปลี่ยนไปเรื่อยตามอุณหภูมิที่ค่อยๆ ลดลง
- เมื่อกระดกจนหมดถ้วยแล้ว คราวนี้สังเกตรสสัมผัสที่ยังติดค้างอยู่ในช่องปาก เอสเปรสโซที่ดีจะต้องเหลือแต่สิ่งดีๆ ทิ้งไว้ ทั้งกลิ่น ความนุ่มนวล และติดอยู่อย่างนั้นสักพัก ไม่รู้สึกว่าอยากดื่มน้ำล้างมันออกไป
ส่วนจะลึกซึ้งเรื่องรสชาติกันมากไปกว่านี้ผมเขียนเป็นแนวทางการชิมไว้พอสมควรแล้ว ลองค้นหากันต่อไปนะครับ คู่มือนี้แค่หวังว่าคนที่จดๆ จ้องๆ ว่าเขาดื่มเอสเปรสโซกันอย่างไร จะได้เริ่มทดลองได้โดยไม่เคอะเขิน เชิญชวนให้ดื่มเอสเปรสโซกันครับ หากโชคดีได้พบกับเอสเปรสโซดีๆ บางคนถือว่าเป็นกำไรชีวิตเลยนะครับ
มั่นใจที่จะสั่งเอสเปรสโซ มาลิ่มรสอย่างมั่น อย่างที่ จขกท. ว่าไว้เลยล่ะครับ..ขอบคุณครับ
ชอบบล๊อกนี้จัง ขอบคุณมากค่ะ นึกถึงครั้งแรกที่สั่งเอสเพรสโซ่ร้านกาแฟพรีเมียมมากิน แล้วได้กาแฟถ้วยน้อยๆ มีน้ำกาแฟอยู่นิดนึง อึ้งไปเลยทีเดียว เพราะคิดว่าเอสเพรสโซ่คือกาแฟดำๆเข้มๆขมๆ รสชาติก็แปลกประหลาดจากกาแฟที่เคยกิน ได้แต่กลั้นใจกลืนๆลงไป แล้วก็เข็ดเมนูนี้ไปนาน
ไม่ใส่น้ำตาลได้มั๊ยครับ
ถ้ามั่นใจว่ากาแฟดีมาก ก็นิยมที่จะไม่ใส่กัน อันนี้แล้วแต่ชอบครับไม่ใช่กฏเกณฑ์อะไร แต่ที่แนะนำให้ใส่เพราะส่วนใหญ่เราจะเจอเอสเปรสโซที่ไม่ได้ดีมากตามร้านกาแฟทั่วไปน่ะครับ
ใส่น้ำตาลเสียของหมด ผมยกทีเดียว
โอ้มันยอดมาก ผมชอบของบอนนะ อิอิ