ไปเชียงใหม่คราวนี้ภาระกิจหลักคือทำคลาส Italian Espresso Tasting ซึ่งได้มีกำหนดการณ์ไว้นานแล้วก่อนที่จะเกิดวิกฤตการณ์น้ำเยอะในภาคกลาง เราได้ผู้เข้าอบรมครบเต็มจำนวนที่วางไว้คือ 10 ท่าน โดยมีทั้งท่านที่เป็นเจ้าของคาเฟ่และผู้รักการดื่มกาแฟคละกันไป
การอบรมเป็นไปอย่างเรียบร้อยครับ โดยมีคุณแน่ iMPRESSO เป็นผู้ควบคุมกาแฟที่ชงออกมาทั้งหมดเกือบ 200 ถ้วย เราได้ฝึกชิมกันราว 10 แบบฝึกหัด โดยผมเลือกทำแบบง่ายๆ ให้ผู้เข้าอบรมค่อยๆ เรียนรู้ จนกระทั่งแบบฝึกหัดท้ายๆ จะเป็นเอสเปรสโซระดับไฮเอนด์ และกาแฟ guest จากโรงคั่วที่มีชื่อเสียง ครั้งนี้เราได้กาแฟ Kenya Maywal ซึ่งเป็น single origin จากโรงคั่ว Intelligentsia มาทำเป็นเอสเปรสโซให้ได้ชิมและลองฝึกให้คะแนนกัน ต้องขอบคุณคุณต๋องศิษย์เก่าคลาสนี้ของเราที่เอื้อเฟื้อกาแฟตัวนี้มาให้ รวมถึงขอบคุณอาสาสมัครทุกคนที่มาช่วยชงช่วยเสิร์ฟช่วยล้างทำให้การดำเนินงานเสร็จสิ้นด้วยความเรียบร้อย และที่ลืมไม่ได้คือขอขอบคุณ Cafe Cofesta นิมมานฯ ซอย 1 สำหรับสถานที่จัดอบรม ซึ่งถือว่าเหมาะมากเพราะเป็นห้องปรับอากาศทำให้การทดสอบและเรียนรู้เรื่องกลิ่นต่างๆ ง่ายขึ้นมาก
ด้วยความที่ส่วนตัวไม่ค่อยได้ไปเชียงใหม่บ่อยนัก เมื่อเสร็จงาน tasting คราวนี้ เลยถือโอกาสเยี่ยมเยือนร้านกาแฟของเพื่อนๆ และร้านเกิดใหม่ตามลายแทงที่ได้รับคำแนะนำมาครับ เลยเอามาเล่าสั้นๆ เผื่อท่านที่สนใจและมีโอกาสไปเชียงใหม่จะได้มีร้านกาแฟไว้ในลิสต์บ้าง
ออกตัวว่าผมมุ่งความสนใจไปที่เอสเปรสโซเป็นหลักและเน้นเยี่ยมพรรคพวกที่คุ้นเคยกันอยู่บ้าง เรื่องบรรยากาศ การตกแต่ง การบริการ ชื่อเสียงหรืออื่นๆ นั้นไม่ได้สนใจ และด้วยเวลาที่จำกัดจึงไม่สามารถไปได้ครบทุกร้านเพราะร้านกาแฟในเชียงใหม่นั้นมากมายล้นหลามเหลือเกิน นั่นหมายความว่ายังคงมีอีกหลายต่อหลายร้านที่น่าสนใจรอให้ท่านช่วยแนะนำกันมา
เริ่มจากเพื่อนเก่าของเราคือคาเฟ่ iMPRESSO ร้านเล็กๆ อยู่กลางนิมมานฯ ซอย 11 ที่ไปครั้งนี้รู้สึกว่าเต็มขึ้น เป็นผู้ใหญ่ขึ้นเล็กน้อย เค้กอร่อยๆ เต็มตู้จาก Baking Mania ที่เปิดสอนทำเค้กอยู่ชั้นบนด้วย ถ้าไปช่วงค่ำยังมีข้าวแกงกะหรี่ทำมือจากเชฟเอ๋ในนาม Papa curry พอได้ฝากท้องกันได้ แกงอร่อยเข้มข้นแน่นอนแต่สั่งแล้วให้ใจเย็นๆ รอสักหน่อยเพราะเชฟทำเองคนเดียวพวก topping ก็ทำใหม่ๆ และขอร้องว่าถ้ารับประทานแล้วชอบก็อย่าเอาไปเทียบอะไรกับแกงกะหรี่จากเชนชื่อดังเพราะนั่นเขาใช้เครื่องจักรทำทั้งนั้น มันบาดใจราวกับไปชมกาแฟจากร้านเพื่อนกันว่าอร่อยเหมือนสตาร์บัคส์
ส่วนเอสเปรสโซของ iMPRESSO ยังคงใช้กาแฟ P&F Espresso Blend เช่นเดิม ดื่ม single shot ใส่น้ำตาลทราย 1 ช้อนอร่อยคุ้นเคยดี จุดเด่นคือ กาแฟค่อนข้างหนักอยู่แล้ว และที่ iMPRESSO ช่วงนี้ชงโดยใช้กาแฟเยอะยิ่งทำให้กาแฟข้นมากออก syrupy ถ้าไม่รีบกระดกจนเกินไปจะได้ spice และใบยาสูบค่อนข้างชัด หลายคนจำกาแฟตัวนี้ได้ตรงที่มันเต็มปากเต็มคำ และมีความลึกดีให้อาฟเตอร์เทสยาวมากๆ เรียกว่านัดใครไว้มาถึงให้ดื่มเอสเปรสโซก่อนแล้วค่อยคุยกัน ตอนคุยกันไปมันเหมือนมีกาแฟอยู่ในปากตลอดเวลา
ร้านที่สองที่ตั้งใจไปเยี่ยมคือ ร้านกาแฟชั้น ๑ ตรงกลางซอย 1 นิมมานฯ ที่นี่เปิดมาครบปีพอดีแต่ผมเพิ่งมีโอกาสได้มาครับ ร้านเป็นตึกแถวห้องเดียวแต่งแบบฮิพๆ ชั้นบนมีที่พักที่นอนให้ด้วย เจ้าของร้านคือน้องเตเป็นคนกาแฟรุ่นใหม่ไฟแรงและดูมีความสุขกับกาแฟมาก ที่นี่ปกติใช้กาแฟของบางกอกเอสเปรสโซแล็ปโรงคั่วสุดฮิพเช่นกันจากกรุงเทพฯ แต่วันที่ผมไปบังเอิญมีกาแฟจาก Handsome โรงคั่วเกิดใหม่จาก L.A. โดย Mike Phillips แชมป์โลกบาริสต้าคนเดียวของอเมริกาในขณะนี้ ตัวที่ได้ลองนั้นเป็นกาแฟฮอนดูรัสชงเป็นเอสเปรสโซแบบ double shot ตามสไตล์ที่น้องเตอยากนำเสนอ ด้วยเครื่องคันโยกบอสโกและตะแกรงที่จุกาแฟมากเป็นพิเศษและอาจมีการออกแบบอะไรพิเศษอีกที่ผมก็ไม่ค่อยเข้าใจ แต่เอสเปรสโซที่ได้ถือว่าน่าสนใจมาก กาแฟคั่วอ่อนมาก(จนไม่น่าจะเอามาทำเอสเปรสโซ) แต่ก็ยังให้บุคลิกของกาแฟได้ชัดเจนและไม่บาดปากจนเกินไป ใครไปดื่มกาแฟที่นี่น่าจะได้พบกับประสบการณ์ใหม่ๆ และการจัดเตรียมเครื่องดื่มที่พิถีพิถัน ขอร้องแค่ว่าให้ใจเย็นๆ อดทนรอสักหน่อย แล้วทุกอย่างจะดีเอง
ร้านที่ 3 ของทริปนี้คือโรงคั่วกาแฟมดแดงไฟ อยู่ริมแม่น้ำปิงตรงถนนวังสิงห์คำ ดำเนินการโดยคุณมดเพื่อนเก่าของเรา ใครที่ไม่รู้จักคุณมดผมถือว่ายังไม่ใช่คนในวงการกาแฟ เพราะคุณมดเป็นคนกว้างขวางมีเพื่อนพี่น้องที่รักนับถือเยอะอาจด้วยบุคลิกส่วนตัวที่เป็นคนเฮฮาบวกกับที่คลุกคลีกับธุรกิจกาแฟมานานเพราะที่บ้านทำกาแฟมาหลายสิบปีแล้ว ส่วนตัวผมจำได้ว่าตอนที่ทำกาแฟใหม่ๆ เมื่อหลายปีก่อนยังเคยรับกาแฟคั่วจากบ้านคุณมดมาขาย จนถึงวันนี้คุณมดคั่วกาแฟเองและมีหน้าร้านเล็กๆ ติดถนนวังสิงห์คำมีลูกค้ากาแฟคั่วของตัวเองเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ผมแวะไปโดยไม่นัดแต่โชคดีที่ได้พบกัน เอสเปรสโซปกติที่นี่เขาใช้กาแฟอะไรผมยังไม่ทันได้ถาม พอพบหน้ากันคุณมดก็ชงกาแฟส่งมาให้ไม่หยุด ที่ชอบมากคือตัวที่กำลังโปรโมทอยู่ได้แก่กาแฟจากดอยผ้าห่มปก ที่คุณมดคุยว่าแปลงปลูกอยู่สูงมาก และชาวสวนก็ตั้งใจทำกันดีมาก เอสเปรสโซที่ได้ชิมจึงดีมากอย่างไม่ต้องสงสัย มันมีกลิ่นที่เข้มข้น มีโทนของพวกเบอรี่ เชอรี่ อยู่ในนั้น กาแฟสะอาดสดใสดีมาก เสียดายว่าผลผลิตยังไม่เยอะเท่าไหร่มิฉะนั้นจะขอแบ่งมาคั่วให้แฟนๆ ของซีททูคัพได้ชิมกันบ้าง ถือเป็นสวนกาแฟเล็กๆ ที่น่าจับตามองครับ
ไปโรงคั่วมดแดงไฟคราวนี้ยังได้รบกวนคุณมดขอเข้าไปชมโรงคั่วด้วย ทราบว่าเพิ่งติดตั้งเครื่องคั่วตัวใหม่หมาดๆ ได้ชมระบบกำจัดควันต้นแบบที่ฝรั่งยังไม่มีใช้ ใครที่สนใจกาแฟอยากเห็นโรงคั่วแบบกันเองกลางเมืองเชียงใหม่แนะนำว่าให้มาเยี่ยมหาคุณมดที่นี่ก่อนครับ
ร้านต่อมาคือลูกค้าของเราเอง นั่นคือร้านกาแฟมิ่งมิตร ดำเนินการโดยคุณโชคเพื่อนเก่าของเราเช่นกัน มิ่งมิตรเกิดขึ้นแห่งแรกที่หมู่บ้านเชียงใหม่แลนด์ ต่อมาจึงเพิ่มสาขาที่ริมปิงซุปเปอร์มาเก็ตสาขานวรัตน์ และล่าสุดสาขาถนนศิริมังคลาจารย์ ครั้งนี้ผมได้ไปเยี่ยมที่เชียงใหม่แลนด์ และแวะก่อนกลับกรุงเทพฯ ที่สาขาถนนศิริมังคลาจารย์ เอสเปรสโซที่นี่ใช้กาแฟ S2C Espresso ที่เราคุ้นเคยดีอยู่แล้ว แต่เมื่อชิมที่มิ่งมิตรพบว่ารสชาติแตกต่างกันไปบ้างหรือแม้แต่มิ่งมิตรด้วยกันเองแต่ละสาขายังมีรสชาติต่างกันเล็กๆ น้อยๆ ทั้งนี้อาจเป็นเรื่องการ set up ต่างๆ จนถึงเรื่องการชง และอากาศในร้าน เมื่อชิมกาแฟจากทั้งสองสาขาแล้วผมชอบเอสเปรสโซที่สาขาศิริมังคลาจารย์มากกว่า ได้รสชาติและกลิ่นชัดเจนดีมากโดยเฉพาะเมื่อดื่มในห้องปรับอากาศ พนักงานชงกาแฟออกมาง่ายๆ ดูไม่เครียด ราคากาแฟและขนมต่างๆ ไม่แพง บรรยากาศนั่งสบายเป็นมิตรสมชื่อ ใครที่คิดถึง S2C Espresso ในเชียงใหม่แนะนำให้มาดื่มที่สาขานี้ครับ
ร้านที่ห้าที่มีโอกาสได้ไปเยี่ยมคือ ร้านกาแฟพาคามาร่า ที่อำนวยการโดยเพื่อนเก่าของเราเช่นกันคือคุณชาตรีผู้เชี่ยวชาญเรื่องกาแฟระดับแนวหน้าอีกคนหนึ่งของวงการกาแฟไทย พาคามาร่าเปิดมาได้สักพักใหญ่แล้วแต่ผมเพิ่งมีโอกาสมาเป็นครั้งแรก จุดเด่นของร้านคือการตกแต่งที่น่าสนใจและกาแฟที่หลากหลายด้วยความที่เป็นโรงคั่วสมัยใหม่เล่นกับกาแฟนำเข้ามากมาย เอสเปรสโซที่นี่ย่อมไม่ธรรมดา ผมได้ชิมเอสเปรสโซจากเบลนด์ชื่อ Roadster ซึ่งบาริสต้าแจงว่าเป็นกาแฟไฮเอนด์ที่มีไว้ให้คอเอสเปรสโซโดยเฉพาะ บวกกับฝีมือบาริสต้าประสบการณ์สูงและเครื่องชงระดับราคาหลายแสนบาท เอสเปรสโซที่ได้ก็ประทับใจจริงๆ ครับ ไม่เปรี้ยวไม่ฉูดฉาดอย่างที่คิด กลับหนักและสมดุลย์ mouth feel เป็น buttery กลิ่นรสโทนถั่ว โทส ทอฟฟี่ มากกว่าผลไม้ ออกแนวอิตาเลี่ยนชั้นดี ดื่มง่ายไม่ต้องใส่น้ำตาล เสียดายบาริสต้าเสิร์ฟถ้วยร้อนไปนิดมิฉะนั้นทุกอย่างจะดูสมบูรณ์แบบไปหมด ร้านอยู่ถนนราชดำเนิน ที่เดี๋ยวนี้บางคนเรียกถนนคนเดิน เอสเปรสโซที่นี่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง
ต่อเนื่องจากพาคามาร่าคือร้านกาแฟดิโอลด์เชียงใหม่คาเฟ่ ของคุณตุ้มเพื่อนที่คุ้นเคยอีกคนเช่นกัน ร้านนี้ย้ายจากเดิมที่อยู่ตรงข้ามวัดอุปคุตใกล้ไนท์บาซ่า มาอยู่ถนนราชภาคีนัยซึ่งตัดกับถนนราชดำเนิน ไม่ไกลจากพาคามาร่ามากนัก ย่านนี้เป็นย่านเมืองเก่ามีนักท่องเที่ยวฝรั่งเดินดูวัดกันเยอะ สไตล์แต่งร้านของดิโอลด์เชียงใหม่ก็เข้าคอนเซ็ปตรงกับชื่อร้านได้บรรยากาศเก่าๆ ไม้ๆ แบบเชียงใหม่โบราณน่าจะถูกใจแขกฝรั่งต่างชาติ เอสเปรสโซที่นี่จากเดิมเคยเน้นกาแฟเชียงใหม่ล้วนๆ ราวกับให้เข้าธีมร้าน แต่มาครั้งนี้ทราบว่ามีการผสมกาแฟอื่นบ้างแล้วทำให้เป็นเอสเปรสโซที่ดื่มอร่อยขึ้นเยอะ เป็นอีกร้านในเชียงใหม่ที่ใช้กาแฟจากโรงคั่วบางกอกเอสเปรสโซแล็ป และตัวคุณตุ้มเจ้าของร้านก็มุ่งมั่นกับโลกของเอสเปรสโซมาก ทดลองโน่นนี่ตลอดเวลา กว่าหนึ่งปีที่ไม่ได้ดื่มกาแฟฝีมือคุณตุ้มจึงสังเกตว่าฝีมือพัฒนาขึ้นมากแล้ว และไม่แปลกใจที่ทราบว่าคุณตุ้มเป็นกำลังสำคัญในชมรมบาริสต้าและร้านกาแฟในเชียงใหม่ที่กำลังรวมกลุ่มกันทำงานอย่างเข้มแข็งในการช่วยกันสร้างเมืองเชียงใหม่ให้เป็นเมืองกาแฟให้ได้
ร้านสุดท่้ายที่ได้ไปเยี่ยมเยือนถือเป็นร้านที่เจ็ดในลิสต์นี้ คือร้านกาแฟริสเทร็ดโต้ อยู่ติดถนนใกล้ปากซอยนิมมานฯ 3 ร้านนี้ผมไม่รู้จักเจ้าของร้าน ทราบแต่เพียงว่าเพิ่งเปิดมาไม่นานแต่บาริสต้าเป็นคนรุ่นหนุ่มไฟแรง มีประสบการณ์มาจากออสเตรเลียและซีเรียสกับกาแฟมาก เมนูกาแฟมีรายการให้เลือกเยอะไปหมด ทั้งกาแฟจากทั่วโลก และเอสเปรสโซเบลนด์ก็มีหลายเบลนด์ ผมขอให้เค้าทำเฮ้าส์เบลนด์มาให้ กาแฟเสิร์ฟมาในถ้วยแก้วใสขนาด 4 ออนซ์ แบ่งเป็นสองถ้วย สไตล์นี้ส่วนตัวถือว่าแปลกไม่เคยเจอมาก่อน แต่ผมก็กระดกดื่มทีละถ้วยติดกัน ถือว่าเป็นกาแฟคุณภาพสูง ลื่นคอหวานกลมกล่อมดีแล้ว ไม่จำเป็นต้องใส่น้ำตาล
จบแล้วครับ Chiangmai Espresso run ฉบับสั้นๆ ถ้าแอบให้คะแนนในใจสไตล์การให้คะแนนอย่างที่เราใช้กันในคลาส espresso tasting ผมเหมาเอาว่าเอสเปรสโซจากทุกร้านที่กล่าวมานี้ได้คะแนนสูงๆ กันทั้งนั้นและเฉลี่ยสูงกว่าเอสเปรสโซที่เคยหาดื่มได้ในเชียงใหม่เมื่อหลายปีก่อน นั่นหมายความว่ากาแฟในเชียงใหม่ดีขึ้นเรื่อยๆ จากความตั้งใจทำงานกันของทุกคนที่เกี่ยวข้อง คอกาแฟสามารถตระเวณค้นหาเอสเปรสโซอย่างที่ท่านชอบได้สนุกขึ้น โดยเฉพาะในช่วงหน้าหนาวอากาศที่เย็นลงของเมืองเชียงใหม่จะช่วยให้กาแฟหอมฟุ้งขึ้นกว่าเดิมอีก ต้องขออภัยที่ไม่สามารถบอกพิกัดของร้านต่างๆ ที่กล่าวไปได้ชัดเจนนักเพราะไม่ชำนาญเส้นทาง แต่ถ้าท่านหาร้านใดร้านหนึ่งได้ก่อนน่าจะสามารถนำพาไปสู่ร้านต่อๆ ไปได้ไม่ยาก ขอให้ทุกท่านสนุกกับการดื่มกาแฟนะครับ
พี่วุฒิทำให้เกิดกิเลส อยากไปเชียงใหม่เป็นเท่าทวี…
น้ำลด…จะไปซดกาแฟที่ เจียงใหม่นะเจ้า