ไม่อยากจะเรียกว่าเป็นเวอร์ชั่นใหม่หรือเวอร์ชั่นล่าสุดอะไรเพราะที่จริงการทำกาแฟของเรามีการปรับตลอดเวลาอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามผมถือว่า espresso blend ของซีททูคัพตอนนี้มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญจนอาจนับเป็นการเข้าสู่ยุคที่ 2 จากที่เริ่มต้นเรากำหนดสัดส่วนของกาแฟไทยไว้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 เพื่อรักษาต้นทุนไว้ทำให้ราคาขายส่งต่อกิโลกรัมไม่เกิน 500 บาท จนมาถึงนาทีนี้เราเริ่มมีเมล็ดกาแฟจากอินโดนีเซียที่ราคาต่ำลงแล้วด้วยการนำเข้าภายใต้ข้อตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน เอสเปรสโซเบลนด์ในเจนเนอเรชั่นที่ 2 ของเราจึงมีสัดส่วนของเมล็ดกาแฟนำเข้ามากขึ้น โดยโครงสร้างหลักๆ ยังคงเป็นกาแฟไทยคุณภาพระดับ specialty จากทั้งดอยช้างและดอยสะเก็ด ที่เพิ่มเข้ามาเป็นกาแฟจากอินโดนีเซีย และมีกาแฟจากอเมริกากลางมาช่วยด้วยเพื่อให้เอสเปรสโซมีความสมดุลย์กลมกลืนดื่มง่ายมากขึ้น ทั้งนี้ต้นทุนโดยรวมขยับขึ้นไปบ้างเราจึงจำเป็นต้องปรับราคาขายส่งเป็น 600 บาทต่อกิโลกรัม แต่ยังคงราคาขายปลีกไว้ที่ 200 บาทต่อถุง 220 g
สิ่งที่เปลี่ยนไปจากเดิมคือ เอสเปรสโซมีบอดี้มากขึ้น สัมผัสเนื้อกาแฟได้ชัดเจนทำให้รู้สึกว่ากาแฟมีรสชาติมากขึ้น กาแฟสามารถคั่วได้อ่อนลงเล็กน้อยโดยไม่รู้สึกว่ามีรสเปรี้ยวคมบาด ในขณะที่ให้กลิ่นหอมตามธรรมชาติของกาแฟอย่างกลิ่นถั่วและผลไม้โดยไม่มีกลิ่นควันมารบกวน มีความลึกของรสชาติมากกว่าเดิมด้วยกลิ่นรสของเครื่องเทศจากกาแฟอินโดนีเซีย ถือเป็นเอสเปรสโซที่ดื่มได้ง่ายๆ ถูกต้องตามประเพณีอิตาเลียน
แนะนำการใช้งาน
เอสเปรสโซ
แนะนำให้ใช้ชงหลังจากวันคั่วอย่างน้อย 10 วัน และพยายามใช้ให้หมดหลังคั่วภายใน 20 วัน หากเปิดซองแล้วควรใช้ให้หมดภายในวันเดียว การใช้กาแฟที่ไม่คั่วมาใหม่จนเกินไปจะทำให้ครีมาละเอียดคงตัวดี กลิ่นของเอสเปรสโซสดใสสะอาดขึ้นไม่มีกลิ่นแก๊สมารบกวน ได้กลิ่นโทสต์ ถั่ว และตามด้วยผลไม้ เมื่อเย็นลงกลิ่นผลไม้จะหวานขึ้นจนเหมือนพวกเรซินปนมากับเครื่องเทศ หากได้กลิ่นนี้หมายถึงกาแฟเย็นพอ และควรจะดื่มได้แล้ว แนะนำให้ชงด้วยกาแฟ 8 กรัม สกัดเป็นเอสเปรสโซ 25 ml ภายในเวลาประมาณ 24 วินาที จะให้น้ำกาแฟที่มีความข้นพอ และความสมดุลย์ของรสกำลังดี คือไม่เปรี้ยวและไม่ขม
กาแฟลาเต้ร้อน
ผมทดลองทำโดยใช้ กาแฟ 16 กรัม สกัดเป็นเอสเปรสโซ 50 ml ลงในถ้วยขนาด 300 ml ให้กาแฟลาเต้ที่นุ่มนวล หวาน เมื่อกลืนแล้วไม่มีรสขมหรือความรู้สึกเหมือนขี้เถ้าติดช่องปากและลำคอ ไม่จำเป็นต้องเติมน้ำตาล
กาแฟลาเต้เย็น
ใช้กาแฟ 16 กรัม สกัดเป็นเอสเปรสโซ 60 ml ผสมกับนมสด 120 ml เมื่อใส่น้ำแข็งแล้วดื่มทันทีจะได้กาแฟที่นุ่มนวลดี ไม่ขมไม่เปรี้ยว ให้ความหอมดีแต่ไม่ใช่หอมฉุนแบบกาแฟคั่วเข้ม รสชาติของกาแฟเต็มที่ แต่เมื่อน้ำแข็งเริ่มละลายอาจรู้สึกว่ากาแฟเจือจางลงค่อนข้างเร็ว จึงไม่เหมาะกับผู้ที่ดื่มแบบค่อยๆ จิบไปเรื่อยๆ
กาแฟเย็นแบบผสมนมข้น
กาแฟ 16 กรัม สกัดเป็นเอสเปรสโซ 60 ml เช่นกัน เราทดลองใช้นมข้นจืด 60 ml และนมสด 60 ml และเพิ่มความหวานด้วยน้ำเชื่อม 20 ml ให้กาแฟเย็นที่มีรสชาติเข้มข้นดีแต่ไม่ขมและไม่ฉุนแบบกาแฟเย็นทั่วไปที่ใช้กาแฟคั่วเข้มกว่า จุดเด่นคือรสชาติสมดุลย์ไม่เปรี้ยวไม่ขม ความเข้มข้นของกาแฟรวมกับความข้นของนมที่ผสมเข้าไปทำให้รสชาติอยู่นานขึ้นแม้น้ำแข็งจะละลายไปบ้าง สำหรับท่านที่ชอบดื่มหวานและมันอาจใช้นมข้นหวานผสมเข้าไปด้วยจะทำให้ได้รสชาติมากขึ้นอีก
ความตั้งใจในการทำเบลนด์นี้คือเป็นคลาสิคอิตาเลี่ยนที่อ้างอิงได้ โดยเฉพาะท่านที่อยากรู้จักเอสเปรสโซสไตล์อิตาเลี่ยนแท้ๆ จากฝีมือโรงคั่วไทย เป็นเบลนด์ที่มีราคาไม่สูงเกินไปสามารถใช้งานและแข่งขันได้จริง กาแฟไม่ขมแต่ก็ไม่เปรี้ยวสามารถใช้กับเมนูต่างๆ ได้ทุกรูปแบบ สามารถรักษารสชาติให้สม่ำเสมอตลอดทั้งปีเพื่อความมั่นใจในรสชาติสำหรับการชงขายให้กับลูกค้าร้านกาแฟ ผู้ที่คุ้นเคยกาแฟเอสเปรสโซของซีททูคัพอยู่แล้วน่าจะสามารถเห็นความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นได้และเข้าใจความคิดในการทำเบลนด์นี้ได้มากขึ้น แต่สำหรับท่านที่ไม่เคยดื่มกาแฟตัวนี้มาก่อนท่านจะได้สัมผัสกาแฟเอสเปรสโซสไตล์อิตาเลี่ยยนขนานแท้โดยมีเมล็ดกาแฟไทยผสมอยู่ในปริมาณพอเหมาะที่ให้รสไม่เปรี้ยวไม่ขมหากหวานกลมกล่อมดื่มง่ายให้รสชาติของกาแฟแท้ๆ ต่างจากกาแฟคั่วเข้มซึ่งพบตามท้องตลาดทั่วไปที่ขมอมควันและเหมือนมีขี้เถ้าติดคอในขณะที่มีความข้นของน้ำกาแฟน้อยให้รสชาติกาแฟน้อยกว่า
ร้านกาแฟที่สนใจสั่งซื้อราคาส่งติดต่อ vudh@seat2cup.com หรือ 086 316หก629 หรือซื้อปลีกทางไปรษณีย์ที่ Seat Web Shop
คุณวุฒิครับ ไม่ทราบว่าที่เมืองไทย
มี “นม” ที่ใช้เฉพาะทำกาแฟมั้ยครับ
ไม่ต้องถึงขนาด extra creammy ครับ
แบบ นมปกติก็พอครับ
แบบที่มีในท้องตลาด จะใช้ได้หรือไม่แนะนำครับ
เพราะเท่าที่จำได้ ผมว่าบางยี่ห้อมีกลิ่นเฉพาะเหมือนกันครับ
กลัวว่าจะทำให้กาแฟเสียรส (รึปล่าว)
ทั้งนี้ผมยัง ไม่เคยลองใช้ครับ แต่เป็นกังวลนิดๆ
ขอบคุณครับ
นมเฉพาะไม่เคยได้ยินนะครับ มีเพื่อนๆ แนะนำนมบางยี่ห้อที่ว่าดีแต่ผมก็ไม่ค่อยสนใจเพราะมันหาซื้อยาก จัดการยาก ในเมืองไทยนิยมเมจิกันเป็นส่วนใหญ่เพราะสะดวกสบายสายส่งมีเยอะไม่ต้องไปหิ้วนมมาเอง รสชาติ กลิ่นถือว่ารับได้ให้รสชาติกาแฟนมที่ผมว่าอร่อยแล้วและมีรสชาติสม่ำเสมอตลอดทั้งปี บางยี่ห้อดีเป็นบางช่วงบางคนบอกว่าเป็นเพราะปรุงแต่งน้อยน้ำนมมาจากวัวตามธรรมชาติเลยไม่ค่อยสม่ำเสมอ
น่าสนใจครับ ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ