ชุมนุมชิมกาแฟที่ซีททูคัพครั้งแรกผ่านพ้นไปแล้วครับ มีขลุกขลักบ้างเพราะท่านมากันเยอะ ผมยังไม่ทันได้ถามไถ่ให้ถ้วนทั่วว่าเป็นอย่างไรกันบ้าง เท่าที่ดูคือแต่ละท่านนั้นมีประสบการณ์ติดตัวมาต่างกัน บางท่านเป็นผู้ดื่มจากทางบ้านแท้ๆ บางท่านก็ไม่ค่อยได้ดื่มกาแฟดำมาเลย บางท่านทำร้าน บางท่านเคยผ่านคัปปิ้งมาบ้างแล้ว
เราจัดชิมกาแฟกันโดยไม่ได้สอนอะไรเพราะไม่ใช่คอร์สอบรม แต่มุ่งให้ชิมเลยแล้วคุยกันไปเมื่อเสร็จสิ้นแล้วได้สนทนากับบางท่านจึงเป็นข้อคิดนำมาโน้ตไว้สักหน่อยถึงปัญหาของนักชิมมือใหม่ที่อาจไม่เคยสัมผัสกับกาแฟลักษณะนี้มาก่อน ผมเองตอนใหม่ๆ ยังเป็นเหมือนกันไม่ผิดเพี้ยนแต่มันนานจนเกือบลืมความรู้สึกนั้นไปแล้ว จึงให้กลับมาทบทวนอีกครั้งเพื่อใช้หาทางช่วยนักชิมมือใหม่ให้สามารถเข้าถึงกาแฟไ้ด้ง่ายขึ้น
- นักชิมมือใหม่สามารถสัมผัสความแตกต่างของกาแฟในแต่ละชุดได้ ไม่ว่าจะต่างมากหรือต่างน้อย สามารถบอกได้ สามารถบอกได้ว่าถ้วยไหนเปรี้ยว หวาน หรือขมกว่าถ้วยไหน แต่ปัญหาคือถ้าให้พูดถึงกาแฟแต่ละถ้วยนั้น ไม่รู้จะเริ่มอย่างไร ไม่รู้ว่าจะอธิบายว่าอะไรดี
- นักชิมมือใหม่ขาดเทคนิคในการชิมกาแฟ เช่นยังไม่สามารถ slurp ได้แรงๆ และไม่ได้ปริมาณน้ำกาแฟมากพอ ยังไม่คุ้นกับจังหวะการเคี้ยวกาแฟในช่องปาก และการบ้วน ขาดจังหวะที่ดีในการค่อยๆ ดมกลิ่น ทำให้ไม่สามารถสัมผัสรายละเอียดที่ซ่อนมาในกาแฟได้
สำหรับผมกาแฟมีสีดำ เป็นสีแห่งความลึกและลี้ลับ ไม่ว่าจะเป็นกาแฟจากสวนไหนในโลกล้วนให้น้ำสีดำคล้ายกันทั้งหมด แต่ในน้ำสีดำนั้นกลับเป็นที่รวมของกลิ่นและรสชาติเกือบทั้งหมดที่มีอยู่บนโลกนี้ การชิมกาแฟเหมือนเป็นการดำดิ่งลงไปในความมืดมนต์นั้นเพื่อสัมผัสความจริง และธรรมชาติบางอย่าง เมื่อเราพบมันก็เหมือนเราได้พบตัวเอง ความซาบซึ้งและปิติอาจเกิดขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ
ถ้าในสีดำนั้นมีความจริงอยู่ มันก็คงเหมือนความจริงอื่นๆ ที่บางครั้งแม้นตั้งอยู่ตรงหน้าแต่ไม่สามารถเข้าถึงได้ง่ายๆ ต้องอาศัยวิถีทางบางอย่างเพื่อไปสู่มันให้ได้ พูดไปพูดมาจะกลายเป็นเรื่องศาสนาไปแล้ว หากมันเหมือนเป็นเรื่องเดียวกันแท้ๆ เส้นทางเข้าถึงกาแฟนั้นถ้าปัญหาคือ 2 ข้อข้างต้นที่กล่าวมา คงต้องใช้วิธีหาโอกาสดื่มหรือชิมกาแฟกับคนที่มีประสบการณ์สูงกว่าครับ จะทำให้สามารถเรียนรู้ได้เร็วขึ้น และต้องมีเวลาในการฝึกฝนที่สม่ำเสมอ เราจะ slurp ได้แรงขึ้น และสามารถสัมผัสรสชาติแฝงต่างๆ ได้มากขึ้น เราจะรู้จังหวะว่าเคี้ยวกาแฟนานแค่ไหนจึงจะพอเหมาะ การอมกาแฟในปากนานเกินไปอาจทำให้รสชาติชัดเจนน้อยลง รวมถึงจังหวะการดมกลิ่น หากเราตั้งใจดมและสูดกลิ่นเข้าแรงเกินไป จมูกมักจะพยายามปรับตัวให้ชินกับกลิ่นนั้น เมื่อเรามีประสบการณ์มากขึ้นเราจะรู้ว่าควรดมอย่างไรเพื่อให้ได้กลิ่นชัดเจนที่สุด
ผมจำได้แล้วว่าตอนที่ตัวเองเป็นนักชิมมือใหม่ยังมีอาการแบบเดียวกัน จนเมื่อผ่าน cupping session สัก 3-4 ครั้งจึงค่อยๆ ดีขึ้น และสนุกมากขึ้นเรื่อยๆ จึงอยากให้กำลังใจนักชิมมือใหม่ทุกท่านครับ ว่าอย่าเพิ่งละความพยายาม ให้คิดว่าการเข้าถึงธรรมชาติส่วนเล็กๆ นี้ อย่างไรเสียน่าจะสนุกรื่นรมย์และง่ายกว่าการนั่งวิปัสนาหรือบำเพ็ญเพียรอย่างอื่นเป็นไหนๆ หากแม้นเข้าถึงมันได้แล้วความซาบซึ้งอาจมากพอเทียบเคียงกันได้
สุดท้ายต้องขอขอบคุณคุณบุ๊งบางกอกเอสเปรสโซแลปอีกครั้งที่มาช่วย ทำให้งานมีสีสันมากขึ้น และขอบคุณทุกๆ ท่านที่สละเวลามากัน ผมถือเป็นกำลังใจของพวกเราคนทำกาแฟคุณภาพให้ตั้งใจทำงานต่อไป และอยากให้ช่วยกัน comment ว่าควรปรับปรุงรูปแบบหรือการจัดการอย่างไรบ้างเพื่อให้การจัดครั้งต่อไปมีประโยชน์และมีประสิทธิภาพมากขึ้นครับ
ต้องขอขอบคุณ seat2cup มากๆคับ
ที่จัดงานในครั้งนี้ ให้คนทั่วๆไปได้มีโอกาส
ลองชิมกาแฟจากหลายๆที่ทั่วโลก
เพราะถ้านั่งกินอยู่ที่บ้าน หรือร้านทั่วๆไป
ก็คงไม่มีทางได้ชิมหลายๆตัวพร้อมกันแบบนี้
เสียดายจังครับ….อยากไปชิมดูบ้าง
พอดีเป็นวันรวมญาติมิตรก็เลยอด
นี่เป็นคัปปิ้งครั้งแรกของผม ก่อนไปนึกไม่ออกว่าจะเป็นยังไง สนุกครับ ไม่นึกว่ากาแฟจะมีสิ่งที่ซ่อนอยู่มากมาย (สำหรับผมหาเจอบ้างไม่เจอบ้าง) สนุกที่ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ได้เจอคนที่ชอบในสิ่งเดียวกัน ได้รับฟังความรู้จากคนที่มีประสบการณ์ มีประโยชน์อย่างมาก ตัวกิจกรรมเองพอเห็นก็รู้เลยว่าต้องเตรียมอุปกรณ์ วัตถุดิบต่างๆ จำนวนมาก ต้องขอขอบคุณคุณวุฒิที่จัดกิจกรรมนี้ขึ้นมาและคุณบุ๊งที่มาร่วมให้ความรู้ครับ เห็นความตั้งใจแล้วต้องขอขอบคุณจริงๆครับ
เป็นครั้งแรกในการคัปปิ้ง ของเราสองคน ก็รู้เรื่องบ้าง ไม่รู้เรื่องบ้าง
คุณ pommi พูดถูกทุกอย่างเลย สิ่งที่ได้รับนอกจากได้ฟังประสบการณ์ของท่านอื่น ๆ ก็คือ น้ำใจ และ ความตั้งใจ ของคุณวุฒิ ที่ได้จัดกิจกรรมนี้
ถ้าจัดอีก ก็ไปด้วยน่ะค่ะ
(ความจริงอยากจะช่วยล้างและ เก็บแก้วกาแฟด้วยค่ะ แต่กลัวจะทำแตกซะก่อน )
Sound like fun and look like Khun Boong enjoys this activity a lot..
From what you write, this sounds like Counter Culture cupping session I attended a while back (Khun Z at Espressofriend also attended at this place before, I believe).
To add, maybe after tasting, there should be lead guy writing on a chalkboard all the tastes the participants get from a particular coffee. That way, one person who fell behind could realize and have a “a ha” moment.
Instead of giving a group of coffee to a few person, I think lining up each kind of coffee in a group and let the participant walk around, instead of sit. That way, one create conversation among participant, like parties. The experienced learns from newbies the question/points he might miss and the benefit to the newb was more obvious from the expert.
I hope participant will follow up with Khun vudh and Khun Boong for their coffee journey later..
ขอบคุณสำหรับกิจกรรมดีๆ ครั้งนี้ค่ะ ^ ^
ครั้งหน้ามีโครงการจะจัดอีกมั๊ยครับ ^_^
ขอบคุณมากค่ะ
ขอบคุณสำหรับการเปิดโลกทัศน์ของเรา 2 คนให้กว้างขึ้นครับ
การคัปปิ้ง เหมือนกับ การเปิดประตูสู่อีกโลกหนึ่ง
หลายคนอาจต้องพยายามหากุญแจที่จะไขประตูให้เจอ
แต่หากเจอกุญแจดอกนั้นเมื่อไร เชื่อว่า โลกที่ได้เข้าไปสัมผัสจะทำให้หลงใหลมากยิ่งขึ้น
เห็นด้วยว่าปัญหาของ มือใหม่อย่างพวกผมคือประสบการ์ณล้วนๆ
แยกรสชาติ อาจไม่ยากถ้ามีตัวกาแฟให้เปรียบเทียบมากพอ (บางครั้งแยกได้แต่ก้อบอกไม่ได้ว่ามันคือกลิ่นคือรสอย่างไรได้ชัดเจน)
ส่วนเรื่องจุดเด่นในแต่ละตัว ผมว่าน่าจะอยู่ที่ประสบการ์ณยิ่งได้กินเยอะ ชิมเยอะ และได้รับการแนะนำจากคนที่มีประสบการ์ณอย่างคุณวุฒิ คุณ(พี่)บุ๊ง
ยิ่งทำให้ได้ความรู้ และอรรถรส(เขียนยังไงหว่า)มากขึ้นครับ
ดีใจที่มีโครงการดีๆแบบนี้ครับ อยากให้การ cupping แพร่หลายไปกว่านี้
ทั้งคนทำกาแฟและคนกินกาแฟ ไม่อยากให้คนมานั่งคิดว่ามันเป็นเรื่อง advance อะไรๆธุรกิจกาแฟคงเปลี่ยนไปอีกเยอะ
**ปล.เสียดายจริงๆไม่ได้ไป เพราะเห็นที่คุณวุฒิประกาศไว้แล้ว แล้วก้อลืมไปเลยเพราะมัวแต่วุ่นๆ
มือใหม่จริงๆ ค่ะ เอ๋อไปเลย ฮ่าๆๆ แต่ถ้ามีโอกาสก็อยากเข้าร่วมอีกนะคะ สนุกดี มันเปลี่ยนโลกไปเลย จากที่เคยดื่มอย่างเดียว (ไม่ค่อยดื่มร้อน แต่จะเริ่มแล้วค่า) มาเป็นคนต้องทั้งดม ทั้งชิม และต้องบอกว่ามันมีอะไรลงไปคั่วด้วยบ้าง คิดในใจว่า “ใครมันจะไปรู้ว”ะ ฮ่าๆๆ ก็เลยได้รู้ว่ากว่าที่จะได้กาแฟมาให้เราดื่มเนี่ย เค้าต้องคิดเยอะเหมือนกันนะ ต่อไปเวลาดื่มกาแฟจะได้ลองสังเกตดูค่ะว่ารสชาดกาแฟถ้วยนั้นถูกคั่วมาจากอะไรบ้าง แล้วเราชอบรสชาดแบบไหน
มีจัดอีกแน่นอนครับ แต่คงต้องรอจังหวะดีๆ หน่อย คราวนี้คงจัดให้กลุ่มเล็กลงและกระชับกว่านี้น่าจะได้ประโยชน์มากกว่า รูปแบบอาจลองใช้อย่างที่คุณ Bobฯ ว่า คือตั้งเรียงไปบนเค้าเตอร์ ค่อยเดินมาดมและชิม อีกรูปแบบที่คิดไว้คือปาร์ตีแบบดื่มชิม คือมีกาแฟน้อยตัวแต่เลือกที่ดีๆ หน่อย และดื่มกันจริงๆ เลยไม่ต้องบ้วน และอาจมีกิจกรรมเรื่องการชงมาเสริมด้วย ใครเห็นดีเห็นงามแบบไหน ช่วยๆ กันเสนอนะครับ อยากให้มีประโยชน์แต่ก็ต้องสนุกด้วย
ผมว่า การคัปปิ้ง สำหรับคนทานกาแฟทั่วๆไป
มันค่อนข้างจะห่างไกลจากชีวิตประจำวันพอสมควร
ไม่เหมือนคนที่เปิดร้าน หรือคนคั่วกาแฟที่จะต้องทำบ่อยๆ
แค่แยกแยะออกว่า อันไหนคั่วเข้ม อันไหนคั่วอ่อน หรือคั่วกลาง
หรือแยกแยะออกว่า กาแฟมาจากทวีปอะไร ก็คงน่าจะเพียงพอสำหรับ
คนกินกาแฟตามบ้านแล้วล่ะครับ
ส่วนกิจกรรมสำหรับร้านกาแฟ ที่จะนำมาEdutain ลูกค้า
ก็น่าจะเป็นแนว ส่งเสริมการทานกาแฟร้อน ส่งเสริมการทานกาแฟดำ
เพราะจะได้เป็นการขยายฐานผู้บริโภคกาแฟคุณภาพดีไปในตัว
อาจจะให้พาเพื่อนที่ไม่เคยทานกาแฟดำมาลองกาแฟใหม่ๆ ดีๆ
หรือให้แต่ละคนนำกาแฟที่ตัวเองชอบมาแชร์กันชิมกันแลกเปลี่ยนความเห็นกัน ทั้งจากโปรและไม่โปร หรือไม่ก็ทดลองทำblindtest กาแฟแบบง่ายๆขำๆ
แค่ความเห็นนึงของคนทานกาแฟครับ
เห็นด้วยกับคุณvespa744 ค่า
จัดกิจกรรมคราวหน้า
น่าจะให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมนำเมล็ดกาแฟของตนเองไปด้วย ^^
@caesarlab
จัดกิจกรรมคราวหน้า
น่าจะให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมนำเมล็ดกาแฟของตนเองไปด้วย ^^
I’m not Khun Vudh but think this will depend on the nature of the cupping. If it’s a team cupping like African coffees, or tasting note cupping, this may not be suitable and works against its schedule/theme.
@ boblam
I’m not Khun Vudh but think this will depend on the nature of the cupping. If it’s a team cupping like African coffees, or tasting note cupping, this may not be suitable and works against its schedule/theme.
ค่ะ ^^
ลองกำหนดเป็น theme แบบที่คุณ boblam เสนอก็น่าสนใจนะคะ