การแข่งขัน กาแฟไฮเอ็นด์ กับบางความคิดและงานกาแฟ

เพิ่งผ่านพ้นไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้วคือการแข่งขันการชงกาแฟในรายการที่ชื่อว่า Thailand Barista Championship 2009 ควบด้วย Thailand Latte Art Championship เพื่อนๆ บางคนไม่ได้ติดตามมาตั้งแต่แรกยังงงและถามบ่อยๆ ว่าทำไมการแข่งขันบาริสต้าบ้านเรามีหลายรายการนัก

ผมก็เทียบเคียงให้ฟังว่าคล้ายกับเรื่องประกวดนางงามที่เมื่อก่อนมีแต่เวทีนางสาวไทย จนเดี๋ยวนี้มีมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส มิสไทยแลนด์เวิร์ลด์ ให้วุ่นวายหลายเวทีไปหมด รวมความสั้นๆ ได้ว่าที่แตกเป็นหลายเวทีเพราะมีผู้จัดหลายคนและมีเครือข่ายธุรกิจที่ไม่อาจร่วมกันได้ ในรายการ Thailand Barista Championship หรือ TBC นี้ถือว่าเป็นรายการแข่งขันชงกาแฟแรกหรือเรียกได้ว่าเก่าแก่ที่สุดของบ้านเรา เคยส่งตัวแทนไปแข่งระดับโลกหรือ WBC มาแล้วในช่วงปีแรกๆ  แต่ต่อมาได้มีการถือครองใบอนุญาตหรือการเป็นตัวแทนของ WBC ที่เรียกว่า national bodies โดยบุคคลอื่นจนกระทั่งปัจจุบันตกอยู่กับสมาคมบาริสต้าไทยและได้ัจัดการแข่งขันขึ้นในชื่อ  National Thailand Barista Championship หรือ NTBC  โดยผู้ชนะในรายการดังกล่าวจะเป็นตัวแทนประเทศไทยไปแข่งในรายการ WBC (เหมือนกับที่มิสไทยแลนด์ยูนิเวอร์สมีสิทธิ์ไปประกวดมิสยูนิเวอร์สอย่างไรอย่างนั้น) 

ซีททูคัพเราชอบแข่งชงกาแฟ เราก็แข่งกับเขาทุกเวทีถ้ามีโอกาส งานที่แล้วเรามี “สา” เป็นตัวแทนเพียงคนเดียว มีบาริสต้า “ปู” เป็นผู้ช่วย พอเห็นเพื่อนแข่งแล้วจึงอยากแข่งบ้าง งาน TBC นี้เลยพากันไปแข่งทั้งสองคนเป็นการหาประสบการณ์

p3132614_exposure_resize

แช้มป์รายการนี้ได้แก่น้องเบญญาภา บาริสต้าจากแบล็คแคนยอนที่เพิ่งคว้าแชมป์จากอีกรายการหนึ่งมาหมาดๆ  เลยได้เป็นดับเบิ้ลแชมป์ไป และที่ได้ลำดับรองลงมายังมีน้องสุเชาว์จากแบล็คแคนยอนเช่นเดียวกัน ถือเป็นปีของแบลคแคนยอนเลยทีเดียว

ถ้าเราย้อนดูการแข่งขันที่ผ่านมาประมาณ 5 ปีนี้แชมป์จะวนเวียนอยู่จาก 2 บริษัทเป็นหลักคือไม่แบล็คแคนยอนก็เอสแอนด์พี ถ้าถามว่าทำไมเป็นเช่นนั้นผมก็เดาว่าอาจเป็นเพราะ 2      บริษัทนี้เป็นองค์กรที่มีศักยภาพมาก มีบาริสต้าหมุนเวียนในสังกัดหลายร้อยคนให้เลือกเฟ้นเพื่อเป็นตัวแทน มีงบประมาณและมีการเปิดโอกาสให้เตรียมตัวเต็มที่อย่างน้อยก็เพื่อผลในการประชาสัมพันธ์ธุรกิจในขณะที่ร้านกาแฟเล็กๆ อย่างซีททูคัพมีบาริสต้านับแล้วนับอีกยังได้แค่ 3 คน เราส่งไป 2 ใน 3 คน แต่บริษัทใหญ่อาจส่งกัน 5 ถึง 6 คนแต่เป็น 5-6 คนที่เฟ้นมาจากบาริสต้านับร้อยๆ คน เมื่อใกล้ฤดูกาลแข่งขันจะมีการจัดสรรเวลา บางแห่งเรียกว่าเข้าแค้มป์ฝึกแบบนักมวยกันเลย  ขณะที่บริษัทเล็กๆ  อย่างเราจะทิ้งงานขายหน้าบาร์ไม่ได้ขนาดวันแข่งยังต้องขอขายก่อนในช่วงเช้า แล้วรีบปิดร้านขนของมาแข่งในช่วงบ่าย ผมมองดูทีมตัวเองแล้วอดสังเวชไม่ได้แต่ก็แอบภูมิใจในตัวบาริสต้าของเราทุกคนที่มีสปิริตในการแข่งขันเต็มที่  ส่วนผลงานนั้น แม้ไม่เข้ารอบอะไรกับเขาแต่จากการแสดงบนเวทีผมถือว่าทำได้ดีมากแล้ว โดยเฉพาะเมื่อคิดว่าพวกเธอมีอายุแค่ 17-18 เท่านั้น หากมีความมุ่งมั่นและรักในงานกาแฟจริงๆ เรียกว่ายังมีเวลาอีกเยอะ

อย่างไรก็ตามเท่าที่สังเกตการแสดงของน้องๆ บาริสต้าทุกคนที่มาร่วมแข่งขันผมยังเห็นว่าการแสดงมีพัฒนาการที่ดีกว่าปีก่อนๆ มากขึ้นตามลำดับ กาแฟที่ใช้แข่งก็ดีขึ้นเรื่อยๆ หลายคนมีความมุ่งมั่นทุ่มเท หลายคนที่พลาดหวังยังมีกำลังใจกลับมาแข่งใหม่ในปีถัดไป ให้เชื่อว่าอีกไม่นานอันดับของเราในเวทีบาริสต้าโลกน่าจะขยับสูงขึ้นเรื่อยๆ สิ่งที่ผมอยากเรียกร้องคือบริษัทใหญ่ที่มีบาริสต้าเข้ารอบลึกๆ ในการแข่งขัน น่าจะมีการนำเสนอกาแฟระดับ high end เหมือนกับที่ใช้แข่งขันใน outlet หรือการขายหน้าร้านจริงของตัวเองบ้าง ให้สมกับที่มีบาริสต้าระดับ top ของประเทศอยู่มากมาย จริงอยู่ว่ากาแฟระดับ high end มีต้นทุนที่สูงกว่ามากแต่ผมเชื่อว่าด้วยศักยภาพที่มีน่าจะสามารถหาแทคติกในการนำเสนอออกมาจริงๆ ได้ไม่ยาก เรื่องนี้ผมกล้าพูดเพราะแม้นจะเป็นบริษัทกาแฟเล็กกระจิ๊ดริดอย่างซีททูคัพ แต่เรายังพยายามนำเสนอกาแฟระดับ high end และการจัดเตรียมที่พิถีพิถันด้วยเทคนิคเดียวกับการแข่งขันที่หน้าบาร์ของเราทุกวัน ไม่ได้มั่นใจว่าทำได้ดีแค่ไหน แต่อย่างน้อยเราก็พยายาม และเชื่อผมเถอะว่ามันทำได้จริงๆ ไม่ได้เป็นภาระที่เกินความพยายาม หากผลลัพธ์ของมันนั้นคุ้มค่า ลูกค้าทุกคนสามารถสัมผัสได้ 

งานของบาริสต้าผมถือว่ามีความสำคัญยิ่งยวดต่อคนในอุตสาหกรรมกาแฟทุกคน เพราะเขาเสมือนเป็นทูตที่ยืนอยู่ตรงกลางระหว่างลูกค้าผู้ดื่มกับเบื้องหลังการผลิตกาแฟทั้งหมด อุตสาหกรรมของเราจะเติบโตได้อย่างมั่นคงนั้นผู้ดื่มและผู้ผลิตต้องพัฒนาไปในทิศทางเดียวกัน จุดนี้เองที่บาริสต้าจะมีส่วนสำคัญเพราะเขารู้ว่ากาแฟที่ดีเป็นอย่างไร จะนำเสนอลูกค้าผู้ดื่มอย่างไร และจะสื่อความต้องการกาแฟดีๆ ไปยังผู้ผลิตในขั้นตอนต่างๆ อย่างไร พูดมาถึงตรงนี้ถ้าบริษัทใหญ่ที่ประสบความสำเร็จในการแข่งขันชงกาแฟจะต่อยอดความสำเร็จนั้นให้บาริสต้าที่ยอดเยี่ยมในสังกัดได้ทำหน้าที่ของบาริสต้าจริงๆ ย่อมเป็นการพัฒนาอุตสาหกรรมกาแฟของเราให้ก้าวหน้าไปได้อีกมาก

เอาล่ะครับขออนุญาตปิดท้ายด้วยประชาสัมพันธ์งานกาแฟงานที่ 2 ของปีโดยผู้จัดเดียวกับรายการแข่ง TBC นี้จะมีขึ้นในวันที่ 25-29 มีนาคมที่จะถึงนี้ที่ห้องประชุมมหิศร SCB Park ถนนรัชดาภิเษก รายละเอียดเพิ่มเติมที่website ส่วนใครอยากชมภาพการแข่งขัน TBCบางส่วนคลิกได้ที่นี่ครับ

You can leave a response, or trackback from your own site.

5 Responses to “การแข่งขัน กาแฟไฮเอ็นด์ กับบางความคิดและงานกาแฟ”

  1. alienboon says:

    เห็นด้วยครับ เพราะเวลาไปกินกาแฟร้านที่ชนะการแข่ง
    ยังงงๆว่าทำไมไม่อร่อยเลย
    ไหนๆก็ชนะแล้ว น่าจะเอามาใช้

    ป.ล. กาแฟของseatอร่อยมากครับ ขอให้พัฒนาเรื่อยๆกาแฟเมืองไทยจะได้รุ่งเรือง

  2. skipper says:

    ก็หวังว่าปีหน้า จะมีจากร้านอินดี้เข้าไปรอบสุดท้ายบ้างนะครับ ซักงานก็ยังดี

  3. วุฒิ says:

    ดีใจที่ชอบครับคุณ alienboon ขอบคุณครับ สำหรับตัวพรีเมี่ยม espro ตอนที่ชงที่ร้านจะได้กลิ่น blueberry ค่อนข้างชัด ตอนจบจะเหมือน wine และ dark choc ติดปาก ไม่แน่ใจว่าคุณ ฯboon ได้หรือเปล่า

    คุณ skipper น่าจะลองลงแข่งดูบ้างนะครับ รับรองว่าสนุก และคงได้ประสบการณ์ที่ดีๆ แน่นอน

  4. Boblam says:

    wine and dark choco… sound delicious… :D

  5. อิทธิฤทธิ์ says:

    ได้ลองชิมลาเต้เย็นของ บลูคัฟ ที่มีแชมป์ สิริทัย ชงมาวันนี้

    ตัวกาแฟผมว่าโอเคครับหอมช็อคโกแล็ต อาฟเตอร์เทสสอาดดี

    แต่สูตรที่ชงให้นี่ผมว่ามันเลี่ยนมาก ๆ เลย ไม่แน่ใจว่าใช่นมข้นจืดหรือเปล่า ดื่มแล้วพะอืดพะอมมากเลยครับ

    แต่ก็อย่างว่าเราก็อยากลองชิมกาแฟตัวที่ใช้แข่งขัดเบรนด์แบบสุดยอดดูมั่ง

    ตอนนี้รอจังหวะจะไปชิมกาแฟคุณวุฒิที่ร้านอยู่ครับ

Leave a Reply

Powered by WordPress | Designed by: Premium Themes | Best Themes Gallery, Find Free WordPress Themes and Top WordPress Themes